จัดกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้าไป Trek ที่เนปาล Part#2
Part ที่แล้วเขียนถึงการเตรียมเสื้อผ้า รองเท้า ที่ใช้เดิน Trek ไปแล้ว
>> https://www.mithuna27.com/?p=1264 <<
ส่วน Part นี้ขอพูดถึงการจัดกระเป๋าโดยรวม เสื้อผ้านอน ของอาบน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆละกัน
ก่อนอื่นขอจด Note เล็กๆที่ได้จากการไป Trek ทั้ง ABC และ EBC มานิดนึง..
- อย่าเอาเสื้อผ้าไปเยอะ ไม่ได้เปลี่ยนทุกวันหรอกจริงๆ
- อย่าห่วงสวยเยอะ ที่หนีบผม หรืออะไรที่ไม่จำเป็นต่างๆ ไม่ต้องยัดไป ไม่มีที่ให้ชาร์จหนีบหรอก (เครื่องสำอางค์เล็กๆน้อยๆเอาไปเถอะอย่าให้ปากซีดมาก สงสารเพื่อนร่วมทริปนิดนึง 555)
- อย่าพยายามทำให้สัตว์ที่เจอระหว่างทางตกใจ เช่นม้า ควาย Yak ที่เดินขนของอยู่ มันจะแตกตื่นวิ่งชนคนได้
- ยิ่งสูงยิ่งห้ามเดินเร็ว มาเนปาล ไม่ใช่สนามเทรล ไม่ต้องแข่งไม่ต้องกลัวรั้งท้าย ให้เดินที่ Pace (จังหวะการเดิน) ของตัวเองนี่แหล่ะ ไม่ต้องเร่งตามคนอื่นมาก แค่ประคองไม่ให้รั้งท้ายจนมากเกินไปก็พอ หยุดดูความงามบ้างถ่ายรูปบ้าง เป็นการค่อยๆปรับความสูง จะทำให้การปวดหัวและแพ้ความสูงน้อยลง
- วันหนาวๆ จงพกทิชชู่ไว้ในที่หยิบง่ายๆซักแผ่นสองแผ่นระหว่างการเดินเทรค เช่นในกระเป๋ากางเกง เพราะน้ำมูกไหลระหว่างเดินแน่นอน
- หมวกใส่นอนทำให้หัวอุ่นสบาย ผ้า Buff หรือผ้าปิดปากตอนนอนก็จำเป็นสำหรับการนอนที่สบายขึ้นเช่นกัน
- ทิชชู่แห้งและเปียกจะมีค่ามากข้างบน
- เต่าเหยียบโลกสีชมพูเริศมากในการยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งเต่าทั้งเท้า สเปรย์กำจัดแบคทีเรียและกลิ่นก็เริศในการเอามาพ่นรองเท้าเช่นกัน
- ถ้านอนไม่หลับ ยาแก้เมาเม็ดเหลืองๆในเซเว่นช่วยคุณได้ (ห้ามกินเกินขนาด เดี๋ยวได้หลับไม่ตื่น!!)
- **จงเดิน Trek อย่างมีอารยธรรม เดินช้าก็ให้คนอื่นเขาไปก่อน เดินเร็วก็อย่าแซงคนอื่นแบบกระชั้น เดี๋ยวได้รับบาดเจ็บกัน คนให้ทางก็ขอบคุณเค้าด้วย**
- เดี๋ยวนี้เค้าเก็บค่าอะไรต่างๆตามนี้นะคะ
ชาร์จแบทขั้นต่ำครั้งละ 500 รูปี
อาบน้ำอุ่นครั้งละ 500 รูปี
ภาษีเมืองคืนละ 500 รูปี
ทั้งหมดนี้ยิ่งสูงยิ่งคิดโหดขึ้นค่ะ
อาเค มาค่ะ!
มาถึง list ท้งเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆที่เราจะใช้ในการมีชีวิตอยู่บนเขาสูงเป็น Week กัน
เรา list ออกมาให้ตามด้านล่างเลย อันนี้จะเป็น list ส่วนตัวของเราเองเอาไปปรับใช้กันได้เลยจ้า
Clothing
- Longjohn หรือ Heattech (ใส่นอน) (x1)
- เสื้อแขนยาวใส่นอน (x1)
- Fleece or Down jacket (แนะนำ Down 900+) x1
- Water + Windproof Jacket or poncho (เสื้อกันฝนตัวยาว) x 1
- Trekking pants x 1-2
- T-shirts or long sleeves top for trekking x 1-3
- Base layer (Flash dry) x 2
- Sun hat x 1
- Gloves (แบบหนาใช้1-2วันที่หนาวมากๆ, แบบบางเปิดนิ้วใช้ทุกวันกันแดด กันหนาวนิดหน่อย) x 1-2
- Socks (Cotton x2-3, Wool x2) wool ไว้ใส่ทับในวันหนาวมาก & ใส่นอนคู่นึง
- Sandals (แบบสวมเท่านั้น) x 1
- Sunglasses (กันแสบตาช่วงวันบนๆแดดจะสะท้อนหิน และหิมะ อาจทำให้ blind ชั่วคราวได้) x 1
- Underwear (แนะนำกางเกงในสปาแบบใช้แล้วทิ้ง ps.อย่าลืมลองใส่เดิน) x on your own
- Buff (ใช้แทบทุกวัน ตอนนอนก็ใช้ได้) x 1-2
- Clothing for staying in town x 1-3 sets
Equipment
- Daypack 20-30 L x 1
- Duffle bag / Any rugged travel case x 1
- Headlamp (เข้าห้องน้ำดึกๆ, เดินตอนเช้าตรู่) x 1
- Quick-dry towel x 1
- Sun block (SPF 50+) x1
- Lip balm (แนะนำสีผึ้งแม่เลียบ) x 1
- Wet paper + Tissue paper (สำคัญมาก) x on your own
(เตรียมไปเผื่อเช็ดตัวด้วย) - Toiletries (เครื่องอาบน้ำ) x 1 set
- basic medical kit x on your own
(แก้ปวด, แก้แพ้, แก้เมารถ, คลายกล้ามเนื้อ, etc. ) - ipod (หรืออะไรก็ได้ที่ฟังเพลงได้)
- powerbank
- Snaks (แนะนำ Sneakers วันละ Bar ช่วงขาขึ้น)
Optional#1 (ชีวิตจะดีขึ้นถ้ามี)
- ผงปรุงรสรสไทยๆ, ผงโรยข้าวญี่ปุ่น, ซอสถั่วเหลือง & ขนมต่างๆ
- สเปรย์พ่นจมูก (ใช้ตอนจมูกแห้งหรือหลังตื่นนอน)
- Dental frost (หากประสบปัญญาเนื้อ Yak ติดฟัน ท่านจะเอาอะไรแคะ?)
- Solar Cell Charger (เอาติดเป้ตอนกลางวัน จะได้มีไฟชาร์จตอนกลางคืน เพราะที่นี่ค่าชาร์ไฟคือคิดเงินนะจ๊ะ)
- Mask (ผ้าปิดปากนี่ใช้ได้ทั้งตอนเดิน ตอนนอน (นอกเหนือไปจากการที่ Buff ไม่ได้ซัก) เอาแบบใช้แล้วทิ้งไปยิ่งดี แนะนำสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาวคนป่วย)
- Clothespins (ที่หนีบผ้า) x2-3 or Portable Clothesline (เชือกตากผ้า) x 1
- Soap shower sheet หรือ แผ่นอาบน้ำ (ไม่ได้อาบน้ำหลายวันแน่นอนค่ะ มีไว้ชีวิตดีแน่)
- Book (อันนี้ส่วนตัวสุดๆ 555)
Optionals#2 (ไม่มีก็ไม่แคร์)
- Thermo bottle (at least 0.5L)
(ถ้าใครไม่ติดกินน้ำอุ่น ไม่ต้องเอาไป หนัก! ซื้อน้ำขวดพกเอาง่ายกว่า) - Ear plugs
- Hand gel (เจลล้างมือ)
- Umbrella (โครต optional)
- Smart watch (ที่จับก้าวเดิน)
- Pocket knife (optional)
- GPS
- Binoculars
แพ้ความสูง (Altitude sickness)
เกิดจากการที่ร่างกายไม่คุ้น และปรับตัวไม่ทัน จากความกดอากาศในที่สูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีออกซิเจนในบรรยากาศในปริมาณที่ต่ำ ร่างกายจึงพยายามเพิ่มออกซิเจนด้วยการการหายใจให้เร็วขึ้น ทำให้ได้ออกซิเจนมากขึ้น มักเกิดที่ความสูงตั้งแต่ 3,000m. เป็นต้นไป
(ดังนั้นยาแพ้ความสูงคร่าวๆให้เข้าใจง่าย ก็จะออกฤทธิ์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายหายใจเร็วขึ้นเพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือดค่ะ)
อาการ:
ปวดหัว, ท้องเสีย (จากการที่ระบบในร่างกายเริ่มรวนจากแรงกดอากาศ ไม่ใช่จากแบคทีเรีย), อาเจียน
วิธีป้องกันอาการแพ้ความสูง
**แนะนำให้ฟิตร่างกายก่อนไป และป้องกันไม่ให้เกิดจะดีกว่าคอยกินยาค่ะ**
• พักผ่อนให้ได้ (ถ้าใครนอนไม่ได้จริงๆ แนะนำให้กินยาแก้แพ้ หรือยาแก้เมารถ ที่มีฤทธ์ทำให้ง่วงในขนาดที่พอเหมาะค่ะ) นอนให้หลับให้ร่างกายได้ปรับตัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆค่ะ
• พยายามกินค่ะ กินอาหารให้ได้เป็นปกติ ให้ตรงมื้อ แม้จะไม่อยากอาหาร ก็ต้องมีอะไรตกถึงท้องค่ะ และพยายามขับถ่ายให้เป็นปกติ
• อย่าเร่งเดิน พยายามเดินให้รู้สึกว่าไม่เหนื่อยตัวเองจนเกินไป ให้ร่างกายค่อยๆปรับกับความสูง
• ดื่มน้ำเยอะๆนะคะ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดและปรับสมดุลระบบภายในด้วยค่ะ
• หายใจลึกๆยาวๆ สำคัญมากค่ะ
วิธีจัดการเมื่อเริ่มมีอาการแพ้ความสูง
• ถ้าแค่ปวดหัวแบบตึ้บๆ มึนๆ งงๆ กินยาแก้ปวดแล้วนอนพักก็เพียงพอแล้วค่ะ ไม่ต้องถึงขั้น Diamox (ในกรณีกิรยา Diamox หรือยาช่วยลดอาการแพ้ความสูง ควรศึกษาให้ดีก่อนว่าเป็นโรคประจำตัวที่ห้ามกินหรือเปล่า)
• ถ้าเป็นมาก ปวดหัวมาก ไอ อ้วก ห้าม!! ฝืนเดินขึ้นต่อไปอีก Level ให้พักให้ร่างกายดีขึ้นหยุดพักที่ Level เดิม หรือให้ลงไปพักที่ Level ที่ผ่านมาแล้วตัดสินใจอีกทีว่าจะตามมาต่อหรือจบการเดินเพียงเท่านี้ (ตามสภาพร่างกาย) แต่ถ้าไม่ดีขึ้น ไม่แนะนำให้ไปต่อค่ะ อาจถึงชีวิตได้ (นี่พูดจริงนะ มันไม่คุ้มค่ะ)
ทำดีมากๆเลยปอ เก่งมากๆ